เมืองไทยเข้าหน้าหนาวแล้ว บันทึกเหตุการณ์นกๆ ณ เชียงราย




วันนี้ระหว่างเดินจากคอนโดไปสถานีรถไฟLRTได้ค้นพบว่าอากาศดีจังเลย ดีแบบไม่คิดว่าจะดี (ถึงแม้ร่างกายจะบอบช้ำจากกลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง และหัวใจรวดร้าวจากการนกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ยังมีอากาศที่ทำให้ใจชื่นขึ้นมาบ้าง ฮิฮิ) ช่วงนี้เสพติดอารมณ์อึน ๆ ทั้งไล่ดูหนังของอาจารย์ชินไกและอ่านหนังสือเฮียมูราคามิ เออ ความอึนนี่มันอึนจริงๆเลยเนอะ ฮ่าๆ

กรมอุตุบอกว่าหน้าหนาวจะมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลา นี่เลยรีบเปิดปฏิทินดูตารางชีวิตตัวเอง อืม.... โอเคเลยต้นเดือนตพฤศจิกลับไทยพอดี ลางานเพิ่มวันสองวันไปเหนือดีกว่า(เกิดมาเคยขึ้นเหนือสุดก็กรุงเทพฯ) บวกกับคุณน้องนิต้าเรียนที่เชียงรายเลยขอคุณแม่ไปเยี่ยมน้องเนอะ น้องอยู่คนเดียวสงสารมัน ขอสปอนเซอร์ค่าเครื่องด้วยเนอะ นี่ไปเพื่อคุณแม่เลยนะรู้ว่าพ่อแม่งานเยอะไม่มีเวลาไปหาน้อง เนี้ยยยยย เป็นพี่ที่ดีเดี่ยวไปดูแลน้องให้(ความเป็นจริงคือนางกลับบ้านก่อนหน้าที่เราจะขึ้นไปอาทิตย์นึง - -") 


ปกติเวลาไปเที่ยวไหนจะไม่ค่อยจำพวกค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้เราจำได้แม่นเลย เพราะค่าเงินมาเลย์ตกแบบไม่น่าให้อภัย ตกยิ่งกว่าช้างตกมัน แลกตังค์กลับไทยแค่พอค่ารถตู้กลับบ้าน TT-TT ช่วงอยู่ในไทยก็อาศัยหลอกชาวบ้านให้เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำให้ ค่าภาษีสังคมก็เยอะ นี่โชคดีที่เพื่อนฝากหิ้วซื้อของเลยมีเงินบาทให้ได้ต่อลมหายใจ ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้คือ 2000 บาทถ้วน ;
-ค่าเครื่องบิน (แม่จ่าย)
-ค่าที่พัก (หอน้อง)
-ค่าเช่ารถ (พี่จ่าย)
-ค่ากิน+จิปาถะ (2000)
-ค่าของฝาก (1000 ตังค์แม่)
โอ้ยยยย ทำไมชีวิตแลดูน่าสงสารอย่างงี้วะ ทำงานกินเงินเดือนเป็นปีๆแล้วยังจะขอเงินพ่อแม่อีกหรอ 5555 (เออนะ แต่ละบ้านเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน บ้านเราลูกๆทุกคนโอเคกับการเกาะพ่อแม่กิน ฮ่าๆ)

ยังไม่เริ่มเดินทางก็เหนื่อยมากแระ เหนื่อยแบบเหนื่อยมากเพราะคิวแน่นมาก แน่นแบบโอ้ยยย ยังไม่ทันกินร้านนี้เลยอ่ะ ฮ่าๆ แล้วก็นอนไม่พอติดต่อกันหลายวัน เฮ้อ...ชีวิตคนเราจะต้องทำอะไรให้ตัวเองลำบากขนาดนี้เลยหรอ ไฟล์ทหาดใหญ่-เชียงรายทำไมถึงมีแต่เช้าตรู่ นี่กว่าจะแหกขี้ตาตื่นมันลำบากแค่ไหนรู้บ้างมั้ย? เมื่อคืนกว่าจะได้นอนนี่ก็ต้องย่อยบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างตั้งกี่ชม.เข้าใจมั้ย? 



ท้องฟ้าสวยดี หวังว่าจะเป็นทริปที่ดี..............  




มาถึงก็จัดการเช่ารถ และนี่คือหน้าตาคุณรถ Honda Cityผู้ร่วมชะตากรรมกับ3ผีน้อง สำหรับการเที่ยวแบบ backpacker ครั้งนี้ .... แบคแพ็กตรงไหนวะ ร้อนนิด เดินเยอะหน่อยก็บ่นเหมือนโดนสั่งให้ลากไม้ร้อยท่อน




เติมน้ำมันเสร็จท้องร้องมาก มโนจิตบอกว่าอยากกินข้าวซอยมาก อยากมากเลยเกินค่ะคุณพี่ข๋าาาาา ไปหาข้าวซอยกันเตอะะะะะ........ อืมมมม ข้าวซอยยย ร้านข้าวซอย ร้านที่ขายทั้งข้าวหมกและข้าวซอย อืมมมม ร้านข้าวซอยที่ใกล้หอนิต้าที่สุด อืมมม ร้านข้าวซอยที่เป็นทางผ่านระหว่างไปสถานที่ถัดไป ฮือออออ คุณแม่ข๋าาาาาาา ทำไมไร้ซึ่งร่องรอยการเปิดร้าน หนูนกใช่มั้ย? ร้านปิดใช่มั้ย? โน่ววว 



ถึงแม้จะนกข้าวซอยแต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป..... ไปไร่ชาฉุยฟงกันดีกว่า ไม่ง้อเว้ยยยย




ดีอ่ะ ชอบ ชอบบรรยากาศ ชอบสีเขียวๆชอบชาแต่เฉยๆกับชาเขียวไง แต่โดยรวมแล้วยังชอบชาอยู่ อยากซื้อชากลับบ้านแต่ไม่มีตังค์ 55555 โอ้ยยยย แต่เดี่ยวนะ ใคร ใคร ใครบอกว่าหนาวแล้ว? หนาวตรงไหนฟ่ะะะะะะะะะะ ไหนคือความหนาว นี่เหงื่อไหลจนรักแร้เปียกยันเท้าแล้วค่ะ แดดไม่ต้องพูดถึง อื้อหื้อออออออ นี่ทาครีมกันแดด8ชั้นก็ไม่พอนะ การเที่ยว outdoor ที่แรกก็นกเรื่องอากาศซะแล้ว T^T 

เครปเค้กและเค้กชาไทยอร่อย โอเคๆ ให้อภัยก็ได้


มีมุมให้ถ่ายรูปอัพIGเยอะ โอเค ให้อภัยอีกข้อนึงแระกัน 555 ถือว่าเราก็รู้สึกดีกับเธอนะ
ไร่ชาฉุยฟง แค่เราว่าถ้าหนาวกว่านี้อีกนิดเราอาจจะชอบเธอมากกว่านี้ก็ได้

หลังจากได้รูปเก็บไว้ในสต็อก(ที่คิดว่าอีก5ปีก็ยังอัพไม่หมด)เรียบร้อยแล้ว คุณHonda Cityก็หมุนล้อแบบ slow life ขึ้นมายังดอยตุง......... ดอยตุงมีดอกไม้ ธรรมชาติ บ้านสมเด็จย่า และคุกกี้แมคคาเดเมีย



โพสท่าดีๆให้สมเป็นผู้หญิงสวยกันหน่อยค่ะ!!



เนื่องจากเราไปถึงก็บ่ายแก่ๆแระ ดอยตุงก็มีอะไรให้เดินดูเยอะจริงจัง แล้วนี่ก็ขึ้นไอ้สะพานโยกๆที่แบบ เดินพลาง บ่นพลาง โอ้ยยย คือเหนื่อยจริงเว้ยแก อย่างที่บอกคืออากาศไม่ได้หนาวแบบที่มโนไว้เลย แล้วอากาศเมืองไทยอ่ะ โอ้ยยยยย เสื้อนี่เปียกเหมือนไปทะเล #อีผี เหนื่อยมาก ลงมายังรู้สึกบ้านหมุน โอเคพอ บ้ายยยยย





เดินต่อกันนิดหน่อยก็งอแงหิวข้าวหิวน้ำ คนนึงอยากกินคาเฟอีน อีกคนอยากของคาว โอ้ยยยย ลูกสาวบ้านนี้เรื่องมากจริงๆ นี่ก็ถ่ายรูปให้แม่ดูสักหน่อยว่าข้าวของทุกอย่างยังอยู่ครบนะ ยังไม่ได้เอาไปขายแลกกับตังค์ค่าเที่ยว ตับไตไส้พุงก็ยังครบทุกอย่าง(แต่ถ้าอยู่ต่ออีก3-4วัน ไตข้างซ้ายอาจไม่อยู่แล้วก็ได้)//จริงๆรูปนี้ได้อินสะไปเรชั่นจาก #อ้ายมีเหตุผล คือแม่มมมโชว์ทุกอย่างในรูปเดียว มีหนังหน้าพวกเราในรูปด้วยนะลองสังเกตุดีๆ(เผื่อมีคนก็อปรูปไปลงไรเงี้ย เซเลปมาก)




ไปต่อกันเหอะ ถ่ายรูปจนเหนื่อยแระ.....................

สถานที่ต่อมาคือแม่สายค่ะ น้องบอกว่าแม่สายมีมุสลิมเยอะ มีร้านอาหารฮาลาลอร่อยๆด้วย ก่อนกินก็แวะละหมาดกันก่อนเนอะ ฮัจญะห์ๆ เป็นตัวอย่างที่ดี (หรอ?) 



มัสยิดแม่สาย 

นี่ก็ยังสับสนระหว่างแม่สายกับแม่สอด ตกลงเราไปแม่สายช่ะ? ชัวร์เนอะ โอเคค่ะแก นี่คือมัสยิดแม่สาย หน้าทางเข้ามัสยิดมีร้านเป็ดย่างฮ่องกงด้วย กิกิ (ใช่ค่ะคุณ ดิฉันกินเป็ดฮ่องกงที่เชียงราย และดิฉันกินเคบับตุรกีที่ฮ่องกง โอ้ยยยย เวรี่อารีนา)


ส่วนตัวเฉยๆกับเป็ดเลยไม่รู้ว่าอร่อยหรือเปล่า แต่ทั้งคุณพี่และน้องบอกว่ามันเลิศมาก โอเคค่ะโนคอมเม้นเนอะ อร่อยก็อร่อย...






ข้างร้านเป็ดจะมีร้านสะเต๊ะ นี่เลยสั่งเนื้อกับไก่ คือแก อร่อยมากกกกกกก อร่อยอ่ะ รสชาติเหมือนเนื้อสวรรค์อ่ะแก คือดีมาก อร่อยมาก อยากกินอีกเยอะๆ ให้กินอีกร้อยไม้ก็ได้นะ แต่จ่ายตังค์ให้เราเนอะ หุหุ


หลังจากกินอิ่มแบบกั๊กๆ คุณน้องบอกว่ามันยังมีอาหารอีกชนิดนึงเรียกว่า ปิ้งย่าง"มะหล่า" นางเมาท์ว่าได้ฟิลเหมือนซีรี่ส์เกาหลีเวลาพระนางไปจิ้มจุ่มไรเงี้ย มันอร่อยมาก เป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากจีนยูนนานเมื่อสมัย...บลาๆ จริงๆมันก็ไม่ได้เล่าเวอร์ขนาดนั้นหรอก(ตูนี่แหล่ะค่ะที่เวอร์) นางเลยโทรถามพิกัดกับเพื่อนเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง (ตู๊ดๆ ฮัลโล เออแก ร้านมะหล่าอะแก ห๊ะ อะไรนะ อ่าวปิดมาเดือนนึงแล้วหรอ จิงหรอแก อืมๆ) /ตัดภาพมาที่อารีนา เพลง TT ของ Twice ก็ขึ้นเป็น background พร้อมน้ำตาไหลแพล่บๆ I’m like TT, Just like TT ...... โอเค คือนกอีกแล้วใช่มั้ย แค่วันแรกก็นกไปกี่อย่างแล้วเนี้ย เสียใจ T___________T

เอาหน่าาาาาา อย่าเสียใจไปเลยพวก เพราะเอ็งต้องตื่นตี2ไปดูหมอกที่ภูชี้ฟ้า~~~~~


นี่ก็ออกกันตั้งแต่ตี3 คือแบบแก....... ปกติป่านนี้แต่ละคนยังไม่นอนเลยเนอะ โห๊ะ แต่เพื่อทะเลหมอกและความสวยงามที่อัลลอฮทรงสร้างมา พวกเราทำได้ค่ะ


เส้นทางแรกๆก็โอเคเนอะ หลังๆแบบ เฮ้ยยยย ไฟเริ่มหาย ถนนไปภูชี้ฟ้าหรือดวงจันทร์อ่ะ หมอกเริ่มลง ทางก็มองไม่เห็น ฝนก็ตกมานิดๆด้วย โอ้ยยยย แต่คุณรันเจ้ใหญ่นางสตรองมากค่ะ ถึงแม้นางจะขับรถบนถนนปกติน่ากลัวมาก แต่นางก็สามารถขับขึ้นภูได้ เราใช้เวลาประมาณ3ชั่วโมงกว่าๆอ่ะแก มีช่วงพีคหนักคือถนนลื่นแล้วทางชันมาก นี่แบบ รถขึ้นไปไม่ได้จร้าาาาา เปลี่ยนเกียร์ก็แล้ว เร่งเท่าไหร่ก็ไม่ไป ในรถก็เด็ก(?)ผู้หญิงล้วน3คน ตอนนั้นแบบ อ่าววว ทำไงต่อล่ะเนี้ย(ถ้าพ่อแม่รู้ว่าไปเพื่อสร้างความลำบากให้ตัวเองและคนรอบข้างคงไม่ปล่อยใช่มั้ย? อ่อป่าวค่ะ น่าจะปล่อยให้ไปตั้งนานแล้ว อยู่บ้านก็ไม่มีประโยชน์555)แต่นี่ยังดีที่มีสติเนอะ รีบลงรถแล้วเข็นรถกัน คุณรันก็เหยียบคันเร่งไปสิ อีน้องๆเข็นเอง #ขอบคุณแรงควายของตัวเอง นี่มันสุภาษิต"เข็นรถขึ้นภูเขาชัดๆ" (ใช่หรอ?) 


หลังจากเจอทางขึ้นอันโหดร้าย ดูจากใน map ก็เหลือระยะทางอีกนิดหน่อย แต่เส้นทางช่างโหดร้ายเหลือเกินค่ะคุณแม่ จนเราเจอลานกว้างๆพร้อมมีรถคันนึงตบไฟสูงใส่ นี่เลยจอดเทียบถามทางเขา ปรากฎว่าคุณลุงคือผู้ใหญ่บ้าน กรี้ดดดดดด ลุงเลยบอกว่า "จอโรโตนี้แระ เดวพ่อปายโสทิ่ภูไห้" (จอดรถตรงนี้แหล่ะ เดี่ยวพ่อไปส่งที่ภูให้) คือลุงผู้ใหญ่บ้านแทนตัวเองว่าพ่ออ่ะ งือออ น่ารักมุ้งมิ้ง นี่ก็กระโดดขึ้นรถลุงผู้ใหญ่ทันที นางก็บอกว่า วันนี้อากาศมันชื้นๆนะ ฝนตกด้วย หมอกลง ไม่รู้จะเห็นทะเลหมอกหรือเปล่า...... ลุงทิ้งคำพูดสุดสยองพร้อมเบอร์โทรมาให้เผื่อฉุกเฉิน ฮืออออ #ลางร้ายเริ่มปรากฎ 

ถึงทางขึ้นดอยก็มีไกด์คอยบริการ ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด มันมีทางขึ้น2ทาง อีกทางนึงเป็นทางปกติแต่ไกลกว่าจุดชมวิว ส่วนทางที่เราไปนี่เป็นทางเก่าเลยขับๆแล้วเจอลุงผู้ใหญ่ แล้วลุงผู้ใหญ่ก็มาส่ง แล้วก็จะมีเด็กชาวเขาเป็นไกด์พาไปดูจุดชมวิวด้วยเส้นทางลัด(เออไม่รู้ลัดหรือเปล่า แต่ใกล้กว่าทางปกติมั้ง แต่ก็นะ เหนื่อยเหมือนกันค่ะอีดอก)
จำชื่อน้องไกด์ไม่ได้ค่ะ นางน่ารักไม่บ่นเลย ส่วนอีสามนางนี่แบบ เด่วๆ หยุดก่อนค่ะ หยุดหน่อย อีกไกลป่ะ เมื่อไหร่จะถึง โอ้ยยยย เหนื่อยยยย ฆ่ะ!!! นางก็ยิ้มๆ ม่ายไกลครับ อีกนิดครับ เออแก~ไม่ไกลๆอีกนิดๆตั้งแต่อยู่ตีนเขา โอ้ยยย เหนื่อยมาก นี่รู้เลยไม่ใช่สายเที่ยวแนวนี้ เรารักความสบาย เราโอเคกับการเดินห้างมากกว่า เรายอมรับ ฮ่าๆ


มีความละหมาดบนความสูง 1628 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง 


มาถึงแล้วววววววววว พ่อแม่ต้องภูมิใจในตัวลูกๆแน่เลยค่ะ

ไหนหมอกอ่ะเด๊ะตา? นั่นไงๆ



อ่อ นั่นช่ะ? หมอกสวยมาก สวยกว่าหน้าพวกเราอีก




ว้ายฝนตก ทวิตแพร่บบบบ อย่าแอบถ่ายสิ 



เฟลจากหมอกจนแปลงร่างเป็นผีกระหัง?




มาๆ เรามาถ่ายรูปทำหน้าตอแหลส่งท้ายกันดีกว่า ตื่นตี3 หมอกลง ฝนตก อากาศหนาว รองเท้าขาวเปื้อนโคลน หัวใจเปื้อนดิน



ขาลงจากภูนี่บอกน้องไกด์ให้นางกลับไปเรียนหนังสือก่อน เด่วกลับเองได้ แต่ปรากฎว่าลงทางผิดจร้าาาา ไปเดินลงอีกเส้นนึง โชคดีที่ลุงผู้ใหญ่ให้เบอร์มาเนอะ ความเกรงจงเกรงใจไม่มีแล้วค่ะจุดนี้ เลยโทรขอช่วยให้มารับหน่อย ฮ่าๆ บ้าบอมาก โชคดีที่หน้าตาดีมีแต่คนเอ็นดูเนอะ ไม่งั้นคงได้หนาวตายพร้อมไมโลร้อนแก้วกระดาษแระ คุณลุงผู้ใหญ่ก็เล่านู้นนี้นั้นนะ นี่นางมีพื้นที่ไว้กางเต้นท์ด้วยนะ อยู่ตีนเขาภูชี้ฟ้าเลยค่ะแก อะๆ โฆษณาให้ฟรีๆเลย 080-6748128
เออ ที่เห็นในรูปไม่ใช่ของลุงผู้ใหญ่นะ แค่จะบอกว่ามีที่พักฮาลาลอยู่บริเวณตีนเขาด้วย ใกล้กับทางขึ้นภูเลยแหล่ะ ใครสนใจก็ลองหาข้อมูลได้นะ แต่ไม่ต้องชวนเรานะ เราไม่ไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

หลังจากนั้นขับรถกลับเข้าเมืองด้วยความตื่นเต้นเนื่องจากน้ำมันเหลือขีดเดียว โถ่วววว ทำไมมันช่างลุ้นตลอดเวลาอย่างงี้วะ #นี่สินะวิถีแบคแพคเกอร์ 5555555 


จบเรื่องน้ำมันก็ต้องมาลุ้นว่าร้านข้าวซอยเปิดยังเนี้ย เพราะตอนถึงแม่ฟ้าหลวงก็ใกล้ๆเที่ยงแระ เราเลยแพลนว่าแวะกินข้าวซอยก่อนกลับห้องไปอาบน้ำแต่งตัวและเที่ยวต่อแระกันเนอะ แต่แล้วนกก็คือนก ร้านปิดไงแก นกมั้ย มันใช่เรื่องที่ฉันต้องนกซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับร้านเดิมมั้ยยยยยย โอเค้!!! ต้มมาม่ากินที่หอก็ได้!!!


และนี่คืออาหารเด็กหอแบบตามมีตามเกิด 555555 พอดีคุณแม่ฝากอาหารทะเลให้คุณนิต้า เลยต้องช่วยกิน เราเป็นพี่ที่ดี เรารู้ว่านางกินคนเดียวไม่หมดแน่ๆ ฮ่าๆ ไข่เจียวปู ปูต้ม มาม่าต้มยำทะเล และข้าวเหนียว

และแล้วอานีต้าตัดสินใจได้ว่านางจะโดดเรียน เราเลยเข้าไปขับรถเล่นในมหาลัยแม่ฟ้าหลวงแล้วก็โทรหาแม่ "ฮัลโล่ววว คุณแม่ ตอนนี้เข้ามาในมหาลัยแมะตาแล้ว" (แม่ก็คือแม่ แม่รู้ตารางเรียนนังนิต้า เลยถามกลับมาว่า...แล้วเข้าเรียนมั้ย?) แหมมม ไอ้เราถึงแม้จะเป็นพี่ที่ดี แต่เราก็เป็นลูกที่ดีมากกว่า เลยรีบตะโกนบอกแม่ "ม่ายยยยยย มันโดดเรียนค่ะ มันแพลนตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะโดด นี่บอกมันแล้วว่าให้ไปเรียนไม่ต้องพาเที่ยวก็ได้แต่มันยืนยันว่าจะโดด" 555 #โยนโทรศัพท์ให้มันรับชาตะกรรมเอง อุว๊ะฮ่ะฮ๊าาาา


ตอนเวียนๆในมหาลัยนี่น้ำมันก็เหลือขีดเดียวอีกแระ โอ้ยยยยยย ลุ้นฉี่แทบแตก เออแต่ม.แม่ฟ้าหลวงสวยจริงแหล่ะ นางก็พรีเซ้นเต็มที่ เช่น เนี้ยนะ ตอนมีดอก...แถวนี้โคตรสวยเลย คนมาถ่ายรูปกันเต็มเลยแหล่ะ แล้วช่วงเช้าๆนะ มันจะมีหมวกสวยๆแถวนี้ด้วยอ่ะ เนี้ยๆรีสอร์ทๆ สวยมากเลย บลาๆ เออ คือ ทั้งหมดที่นางบอกคือช่วงอื่นไง ไม่ใช่ช่วงที่ดิฉันเที่ยวไง ฝนตกไง มองไปทางไหนก็เห็นแต่เม็ดฝนไง ความเปียกเงี้ย ความชื้นอีก ยังสวยอยู่ใช่มั้ย? #ผี


เชียงรายเป็นประเทศ slow life คือแบบ มีร้านกาแฟเยอะมากกกกกกกกกกกกก สองข้างทางมีแต่ร้านกาแฟ ทางเราเลยแพลนจะไปร้านกาแฟกันค่ะ นี่ก็ผ่านประมาณ258ร้านแต่เราก็ไม่จอดค่ะ เพราะเราจะไปชมบรรยากาศสวยๆที่สิงห์ปาร์คหรือไร่บุญรอด และนี่คือวิวของเราค่ะ 55555555555555555555555555555 สวยมาก เม็ดฝนที่กระทบกระจกรถช่างสวยเหลือเกิน สามารถดูได้ที่สิงห์ปาร์คเท่านั้น ที่KLไม่มีเม็ดฝนอย่างนี้เล้ยยยยย ม๊ายยยย

แวะจิบชากาแฟและเค้กส้มโง่ๆ 



หลังฝนหยุดก็เออสวยดีนะเสียดายจังไม่ได้ทัวร์รอบๆ ส่วนคนนี้คือป้านา จริงๆป้านาอยากไปเชียงรายเชียงใหม่ขึ้นเหนือมาก เราก็บอกปัดตลอด แต่แล้วความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เมื่อป้าหมดผลประโยชน์กับเรา เราจึงเทป้านา 55555 แต่ด้วยรัก เราเลยนิมิตป้านาด้วยความจริงใจ <3


แพลนเกินครึ่งเฟลไปเมื่อฝนตก จริงๆจะไปหลายที่มาก แต่ก็นั้นแหล่ะ ทั้งฝนตก ทั้งขี้เกียจ ทั้งหิวข้าว ของฝากก็ยังไม่ซื้อ เลยกลับเข้าเมืองไปละหมาดที่มัสยิด(สวยมากอ่ะแก มีความจีน ขนาดโดนเม็ดฝนบดบังแต่ความสวยก็มิได้จางหายไป) เออ แล้วคือแถวนี้มีอาหารฮาลาลเยอะนะ ร้านข้าวซอยก็มีด้วย แต่ประเด็นคือ!!!! เราแพลนจะกินข้าวซอยตอนเย็น แล้วเป็นยังไงคะ? นิต้าเลยโทรสอบถามกับพรรคพวกได้ความว่า "
เขากินข้าวซอยกันตอนเที่ยงโว้ยยย ช่วงดินเนอร์เขาไม่ขายกันแล้ว...." me/เหมือนโดนฟ้าผ่า ขุ่นแม่คะ!!! นี่หนูอุส่าไปเหนือเพื่อจะกินข้าวซอยเลยนะ!! แล้วทำไมถึงนกมากมายอะไรขนาดนี้ ข้าวซอยมันหากินยากขนาดนั้นเลยหรอ มันใช่หรอ มันไม่แฟร์สำหรับหนูเลยค่ะขุ่นแม่!! #กัดปลายผ้าคลุมสงบสติอารมณ์  

คุณน้องก็บอกว่า เออๆ ไม่เป็นไร แถวๆหอมีร้านฮาลาล เดี่ยวไปกินแกงส้มชะอมกุ้งกัน

และนี่คืออาหารที่เรากินที่ภาคเหนือค่ะ.......  แกงส้มที่ไม่มีความเผ็ด ยำวุ้นเส้นทะเล ไก่ทอดน้ำปลา อืมมมม

หมดเวลาสนุกแล้วสิ หมดเวลาสนุกแล้วสิ.... นี่บินจากเชียงรายไปหาดใหญ่นะ แต่ใช้พาสปอร์ตอ่ะ เวอร์ไปอี๊กกกกกก(ป่าวหรอกแก พาสปอร์ตหยิบง่ายกว่าบัตรประชาชน ไม่ได้กระแดะอะไรหรอก) เนื่องจากไม่มีที่นั่งเลยอ้อล้อสั่งน้ำแบล็กแคนยึ้นมาคนละแก้ว พอดีเห็นว่ามีโปรAIS นี่ตังค์ก็เหลือแต่แบงค์ยี่ จะขอแม่อีกก็เกรงใจ เลยต้องกินตามมีตามเกิดอะเนอะ


ถึงหาดใหญ่ก็แวะกินอาหารอีสานที่ภาคใต้สักหน่อย ฮ่าๆ นี่ตอนสั่งก็คำนวณตังค์แบบนับเหรียญอ่ะ (โฮ~ ถ้าการเงินจะวิกฤตขนาดนี้ก็ไม่ควรทำตัวอย่างนี้นะ Y-Y) ค่ะ ใช่ค่ะแก ทริปบันทึกเหตุการณ์นกๆ ณ เชียงรายของเราก็ประมาณนี้แหล่ะค่ะ อ่อ นี่หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จก็นั่งรถไฟETSกลับKLต่อค่ะ ความนกส่งท้ายคือลืมเติมเงินในSIMเบอร์มาเล พอเข้าเขตมาเลเบอร์ใช้ไม่ได้อ่ะ ตังค์มีแต่วันหมด เบอร์เลยไม่active ดิฉันจึงไม่สามารถเล่นเน็ตหรือโทรหาใครได้ตลอดการเดินทาง6-7ชม. เออไม่น่าจะเรียกว่า"นก" แต่ควรเรียกว่า"โง่"มากกว่า #อีผี 

ไปก่อนนะคะ ขอบคุณที่อ่านจบ แล้วมาเจอกันใหม่ในวันที่บอสลางาน ฮ่าๆ

ความคิดเห็น

RuNz กล่าวว่า
สนุกและตลกมากก 55555555555ไอบ้า
55555 ไร้สาระมากอ่ะ บ้ากว่ารีวิวอาหารป่ะ
Unknown กล่าวว่า
ความบ้านี้ 555555555
i-pondoK กล่าวว่า
แน่นอนจัง!!! สาวน้อยอารีนา

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิวอาหารฮาลาลในฮ่องกง + มาเก๊าHalal food and Muslim friendly food (in Hongkong + Macau) EP.03 Byคุณนายติ่ง

Family Road Trip In Hokkaido ฉบับ Halal

รีวิวอาหารฮาลาลในญี่ปุ่น Halal food and Muslim friendly food (in Japan) EP.01 By คุณนายติ่ง (ITADAKIMASU)